(ต่อ) ถ้าจะพูดตามจริง ไม่ว่าการใช้ทางม้าลายให้รถหยุด หรือ สะพานคนข้ามล้วนแต่สุดโต่งเกินไป ไม่ได้คำนึงถึง parameter อื่นเลย คือ energy loss ทางม้าลาย - รถต้องหยุด ลองคิดดูว่าพลังงานที่ loss จะขนาดไหน (1/2 mv^2) สะพานลอยคนข้าม - รถก็เอาเปรียบเกินไป อยากวิ่งสบายโดยไม่เห็นใจความลำบากของคนเลย เพราะความสุดโต่งเกินไป ทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน จึงกลายเป็นทีใครทีมัน มีสะพานฉันก็ไม่ข้าม ชะลอก็ไม่ยอม หลบได้หลบไป แน่จริงอย่าข้ามนะ วัดใจกันจนวินาทีสุดท้าย ถ้าเรายอม maintain existing system คือใช้สะพานลอยแหละ แต่ขอ trade-off นิดหน่อย (ดีกว่าหวัง ideal final result แต่คิดไม่ออก) คือรถอาจต้องช้าลงนิดนึง (แต่ก็ดีกว่าต้องหยุดเลยกรณีทางม้าลาย) และทำให้คนสบายขึ้น คือไม่ต้องเดินขึ้นสะพานเอง หลักการคือขโมยพลังงานจากรถยนต์นิดหน่อยมาเป็นพลังงานช่วยยกคนขึ้นสะพานลอย ผมได้ไอเดียนี้มาระหว่างช่วงนั่งหาวรอรถติดบนรถเมล์เมื่อนานมาแล้ว เห็นว่าทำไมเราไม่เอาพวก energy loss ที่เกิดจากการเบรคในช่วงที่รถต้องเบรคแน่ๆมาใช้ประโยชน์ (ข้อ 25 self service) เช่นช่วงลงสะพาน หรือเจอไฟแดง แทนที่จะให้มันสูญเปล่าไปทั้งหมดกับผ้าเบรค ยาง พื้นถนน ฯลฯ วิธีการก็คือทำสายพานบนพื้นถนน ที่บริเวณที่เราคาดว่ารถน่าจะต้องเริ่มเหยียบเบรค เช่น ก่อนไฟแดง 100 เมตร หรือช่วงลงสะพาน เวลารถเจอ load ของสายพานก็จะช่วยชะลอความเร็ว (โดยไม่ต้องหรือแค่เหยียบเบรคนิดหน่อย) แล้วจะถ่ายพลังงานมาหมุนสายพานแทน คราวนี้ก็แล้วแต่ว่าจะนำพลังงานนี้ไปทำหรือ store ยังไง เช่นใช้จ่ายไฟให้ไฟจราจร หรือป้ายบอกทาง เราอาจจะ lock สายพานไม่ให้หมุน หรือปลด load กรณีที่เป็นไฟเขียว เพื่อไม่ให้ไปชะลอรถในเวลาที่ไม่จำเป็น คราวนี้กลับมาที่สะพานลอย สมมติว่ารถยนต์ทุกคันต้องชะลอความเร็วจาก 50 km/hr เหลือ 40 km/hr (แค่นี้คงไม่ว่ากันนะ) เมื่อผ่านบริเวณสายพานแถวใต้สะพานลอย ลองคำนวณดู (ให้ efficiency ห่วยๆด้วย) ว่าพลังงานที่รถชะลอนี้ของรถทุกคันรวมๆกัน จะยกคนตัวหนัก 80 kg ให้ขึ้นสะพานลอยได้กี่คน หมายเหตุ : ปัญหาข้อนี้ จขกท ถามมาเล่นๆ ผมก็ตอบมั่วๆ ไม่ได้ศึกษาค้นคว้าไอเดียเก่านี้ต่อให้รอบคอบ วิธีขโมยพลังงานแบบนี้อาจไม่ work ในทางปฎิบัติก็ได้ ท่านอื่นอาจมีวิธีการขโมยพลังงานจากรถที่เข้าท่ากว่านี้ หรืออาจมีวิธีอื่นที่ประหยัดพลังงานกว่าการใช้บันไดเลื่อนก็ช่วยกันเสนอเข้ามาได้ครับ แต่ยังไงก็ไม่มีคนเอาไปทำจริงหรอก
|